ช่วงนี้มีหลายหน่วยงานสนใจนำ SNOMED CT ไปบันทึกคำวินิจฉัย ซึ่งสิ่งที่จะตามมาก็คือต้อง map เข้า ICD-10 เพื่อการเบิกจ่าย ข้อมูลการ map ไป ICD-10 นี้อยู่ใน SNOMED to ICD-10 reference set (SCTID: 447562003) ซึ่งพอเข้าไปดูรายละเอียดจริง ๆ จะพบว่ามีหลายฟิลด์อยู่เหมือนกันครับ วันนี้เลยมาพาอ่านข้อมูลเหล่านี้ครับ
Featured image โดย Giorgio Trovato จาก Unsplash
ข้อมูลเสริม
- เนื่องจาก SNOMED CT นั้นละเอียดกว่า ICD-10 ดังนั้นการ map จากสิ่งที่ละเอียดกว่าไปสิ่งที่หยาบกว่าจึงมักลงได้ 1 ค่า แต่จะมี concept ในหมวด finding อยู่ราว 15% ที่สามารถ map ไป ICD-10 ได้มากกว่า 1 ค่า เช่น พวกโรคที่เพศชายและหญิงใช้คนละรหัส หรือเด็กกับผู้ใหญ่ใช้คนละรหัส เป็นต้น
- ส่วนใหญ่ถ้ามีหลาย map group จะไม่ค่อยมี rule เยอะในแต่ละ group มีน้อยมากที่มีหลาย map group และภายในแต่ละ group มีหลาย rule
- ควรดู mapAdvice และ mapCategoryId ประกอบการ map เช่นกัน
- documentation ของเรื่องนี้ ดูได้ที่ ICD-10 Mapping Technical Guide
วิธีอ่าน
- มีกี่ map group แปลว่าจะมีรหัสปลายทางของการ map จำนวนเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามี 2 map group ก็คือ SNOMED CT concept นั้น ๆ map ไปที่ ICD-10 ได้ 2 รหัส และใช้ทั้ง 2 รหัส
- ในแต่ละ map group จะมี map priority อยู่ แต่ละ priority จะมี map rule วิธีอ่านก็คือให้อ่าน priority ที่เลขน้อยที่สุดก่อน (เช่น 1) แล้วประมวลผลว่า rule นั้นเป็น TRUE หรือไม่ ถ้าจริง ให้ใช้รหัสปลายทางของ map priority นั้น
เขียนเป็นแผนภาพจะได้ดังนี้

ตัวอย่างแบบในภาพข้างล่างนะครับ ถ้ามี 1 map group ก็ให้ดูต่อว่าใน group นั้น rule ของ priority 1 เป็นจริงหรือเปล่า สมมติว่าไม่จริง ก็ไปใช้ rule ของ priority 2 ดังนั้น code ปลายทางจึงเป็น code 2

ยกตัวอย่างจากข้อมูลจริง จะ map 71315007 | Dyspareunia (finding) | ไป ICD-10 ในตาราง mapping มีแค่ map group เดียว ดังนั้นก็ดูต่อว่าคนไข้เป็นเพศชายหรือเปล่า ถ้าเป็นก็จะ map ไป “N48.8 Other specified disorders of penis” แต่ถ้าไม่ใช่ (Else) ก็จะ map ไป “N94.1 Dyspareunia”
ดังนั้น หากเคสนี้คนไข้เป็นเพศหญิง ก็จะ map ไป ICD-10 code คือ N94.1 Dyspareunia

ตัวอย่างที่ 2 สมมติว่ามี 2 map group โดย group บนเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ใน map group 2 มีแค่ priority เดียว ดังนั้น ปลายทางของการ map ก็จะเป็น code 2 และ code 3 ทั้ง 2 ค่า

ดูตัวอย่างของจริงครับ จะ map ระหว่าง 71255007 | Adenoviral laryngotracheobronchitis (disorder) | ไปยัง ICD-10 ในกรณีนี้มี 2 map group
- map group 1 ดูที่ priority 1 ก่อน ซึ่งเป็นการดูว่าอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 15 ปีหรือเปล่า ถ้าเข้าเกณฑ์ก็จะ map ไปยัง J20.8 แต่หากไม่เข้า (หรือก็คือเป็นผู้ใหญ่) จะ map ไปยัง “J40 Bronchitis, not specified as acute or chronic”
- map group 2 มี priority เดียว และมี rule เป็น always หมายความว่าจะ map ไปค่านี้เสมอคือ “B97.0 Adenovirus as the cause of diseases classified to other chapters”
ดังนั้นเคสนี้ ถ้าคนไข้เป็นผู้ใหญ่ ก็จะมี ICD-10 2 ค่า คือ J40 และ B97.0

ก็จบแล้วครับ มาโน้ตไว้สั้น ๆ ครับ