ทริปนี้เป็นหนึ่งในซีรีย์ 17 วันเที่ยวยุโรป 5 ประเทศ เป็นการเดินทางหลังเรียนจบ Health Informatics จากสวีเดนของผมเองครับ โดยทริปนี้เป็นทริปต่อจากอัมสเตอร์ดัม ผมเดินทางมาถึงโคเปนเฮเกนค่ำวันที่ 17 ส.ค. 61 และอยู่ถึงวันที่ 20 ส.ค. จึงเดินทางต่อไปยังออสโลครับ
ความคิดเห็นต่อโคเปนเฮเกนโดยรวม
- โคเปนเฮเกนเป็นเมืองที่คล้ายสต็อกโฮล์มมาก ความเจริญสูสีกัน สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็คล้ายกันมาก แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรที่ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ครับ จริง ๆ ส่วนตัวรู้สึกว่าสต็อกโฮล์มมีอะไรน่าสนใจมากกว่าเสียอีก
- ที่มีรู้สึกว่าเจ๋งดีก็คือสวนสนุก Tivoli ครับ อันนี้ดีกว่า Gröna Lund ของสต็อกโฮล์ม (แม้จะเจ้าของเดียวกัน) อีกอย่างที่ชอบก็คือ Free town Christiania ครับ เป็นการทดลองทางสังคมที่น่าสนใจดี
- อย่างไรก็ดี ทริปนี้ผมพลาดตรงไม่ได้วางแผนดี ๆ ไม่ได้ดูว่าเป็นวันจันทร์ซึ่งเป็นวันหยุดของพิพิธภัณฑ์ที่นั่น ทำให้อดไปหลาย ๆ พิพิธภัณฑ์ที่สนใจ เช่น Design museum และ Louisiana
- เป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงกว่าสต็อกโฮล์มนะครับ
.
ทิปเล็กทิปน้อย
- ระวังวันจันทร์ให้ดี ปิดแทบทั้งเมือง แม้ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ก็ปิด เช็คดูดี ๆ ครับว่าไปไหนได้บ้างถ้าโดนวันจันทร์
- ถ้ามาเที่ยวสั้น ๆ และอยากเน้นเก็บสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ แนะนำอย่างยิ่งให้ซื้อ Copenhagen Card นะครับ ครอบคลุมการเดินทางทั้งหมด และสถานที่สำคัญ ๆ อยู่ครบ รวมไปถึงสนามบินด้วย (ปกติการ์ดพวกนี้มักไม่ครอบคลุมการเดินทางไปสนามบิน)
- โคเปนเฮเกนมีพระราชวังหลัก ๆ 3 แห่ง ถ้าให้เรียงตามความอลังการ ผมว่า Christiansborg อลังการสุด ตามมาด้วย Rosenborg และ Amalienborg อลังการน้อยสุด แต่คนนิยมไปมากที่สุดเพราะอยู่ตรงศูนย์กลางและมีการเปลี่ยนเวรยามให้ดู
.
17 ส.ค. 61: มาถึงโคเปนเฮเกน
ผมมาถึงโคเปนเฮเกนช่วงค่ำ ๆ ก็แวะเอา Copenhagen Card ที่ซื้อออนไลน์ไว้ที่สนามบินได้เลย จากนั้นก็ใช้การ์ดนั้นในการเข้าเมืองครับ (การ์ดนับเป็นชม.) แต่ถ้าใครอยากประหยัดก็ซื้อตั๋วเที่ยวเดียวไปก่อนได้ครับ สนามบินโคเปนเฮเกนนี้ดีตรงไม่ได้ไกลจากในเมืองมาก แป๊ปเดียวก็ถึง ทริปนี้ผมหายดีแล้วเลยพักที่ Urban House Copenhagen ครับ ราคาคืนละ 2,200 บาท (นี่ราคาโฮสเทลนะครับ)
โฮสเทลนี้ทำเลดีมาก ๆ ครับ ตั้งอยู่ติดกับ Central station เลย เดินมาไม่กี่นาที สะดวกดีครับ เป็นโฮสเทลที่ใหญ่มาก ๆ เดินไกลเลยกว่าจะถึงห้อง ห้องเป็นห้อง 8 เตียง และมีห้องน้ำรวมในห้องเลย ไม่มีห้องน้ำนอกห้อง อันนี้เป็นข้อเสียเพราะบางครั้งทำให้เราต้องรอใช้ห้องน้ำนาน เรื่องอาหารเช้าก็ราคารับได้ครับ แต่ขนมปังที่ Generator Paris คุณภาพดีกว่า และบรรยากาศโฮสเทลมีความแออัดเล็ก ๆ แต่โดยรวมก็โอเคกับคุณภาพและราคาครับ
พักผ่อนหนึ่งคืน วันต่อมาผมก็เริ่มการเดินทาง
.
18 ส.ค. 61: Little Mermaid / Amalienborg / Rundetaarn / Rosenborg
Little Mermaid
Little Mermaid เป็นนิยายของคุณ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) ที่ดิสนีย์นำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์การ์ตูนครับ รูปปั้นที่อยู่ตรงชายหาดนี้ได้รับการสั่งให้สร้างในปี 1909 โดยลูกชายของผู้ก่อตั้งเบียร์คาร์ลสเบิร์กหลังจากดูบัลเล่ต์แล้วประทับใจ ต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโคเปนเฮเกนไป


.
ป้อม Kastellet
ใกล้ ๆ กับรูปปั้นนางเงือกก็คือป้อม Kastellet ครับ เป็นป้อมรูปดาวที่สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ไม่กี่แห่งที่ยังเหลืออยู่ในยุโรปเหนือ


.
น้ำพุเกฟิออน (Gefion Fountain)
ใกล้ ๆ กับป้อม Kastellet จะมีน้ำพุเกฟิออนอยู่ สร้างตามตำนานโบราณ โดยเป็นรูปปั้นของเทพธิดาเกฟิออนที่นำบุตรชายทั้งสี่แปลงกายเป็นวัวแล้วไถกลบทะเลเกิดเป็นพื้นที่ของประเทศเดนมาร์กในปัจจุบัน

.
พระราชวัง Amalienborg
เป็นพระราชวังที่ยังเป็นที่ประทับของราชวงศ์ในปัจจุบัน แต่ว่าไม่ได้เปิดให้เข้าชม ที่เข้าชมได้คือพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวังบางส่วน และดูการเปลี่ยนเวรยามตอนเที่ยง
ค่าเข้าชม 95 DKK เข้าฟรีด้วย Copenhagen Card







.
The Marble Church (Frederik’s Church)
เป็นโบสถ์ที่อยู่ใกล้ ๆ กับพระราชวังครับ เห็นบอกคนชอบมาจัดงานแต่งงานที่นี่ ไม่เสียค่าเข้าชมครับ



.
Nyhavn (New Harbour)
ไม่ไกลจากพระราชวัง Amalienborg คือท่าเรือ Nyhavn ครับ เป็นจุดที่เราจะเห็นในโปสการ์ดบ่อย ๆ สมัยก่อนเป็นท่าเรือสำคัญที่เรือจะเข้ามาจอดและกะลาสีเรือก็จะหาความบันเทิงจากร้านค้าแถวนั้น ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมือง


.
Rundetaarn (The Round Tower)
หลังจากออกจาก Nyhavn ผมก็เดินไปตามถนน Strøget ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในยุโรป (ปัจจุบันโดนแซงแล้ว) ด้วยความยาวกว่า 1.1 กม. เพื่อไปยัง The Round Tower ครับ เดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ค่าเข้าชม 25 DKK เข้าฟรีด้วย Copenhagen Card






.
พระราชวัง Rosenborg
อีกหนึ่งพระราชวังสำคัญของโคเปนเฮเกนครับ ด้านนอกเป็นสวนสวยงาม ด้านในเป็นวังที่มีความวิจิตรงดงามมากกว่า Amalienborg นอกจากนี้ยังมีคลังสมบัติซึ่งเป็นที่เก็บมงกุฏของราชวงศ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่าง ๆ
ค่าเข้าชม 110 DKK เข้าฟรีด้วย Copenhagen Card








.
19 ส.ค. 61: Aquarium / Christiansborg / Tivoli
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติ (National Aquarium Denmark)
เขาเคลมว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือครับ แบ่งเป็น 3 โซนหลัก ๆ 1) มหาสมุทร 2) แม่น้ำเขตร้อนชื้น 3) แม่น้ำและทะเลทางเหนือ ภายในพิพิธภัณฑ์ก็จะมีการให้ความรู้ เช่น เรื่องมลพิษทางทะเล มีการ interactive มีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารปลาฉลามและนากทะเล (Sea Otter)
ค่าเข้าชม 170 DKK เข้าฟรีด้วย Copenhagen Card










.
Torvehallerne
เสร็จจาก Aquarium ก็มากินอาหารที่นี่ต่อครับ เป็นศูนย์อาหารที่มี food stand กว่า 60 ร้าน


.
Christiansborg Palace
เป็นอาคารที่มีหลายหน่วยงานอยู่ในนั้น มีสำนักนายกรัฐมาตรี, รัฐสภา, และศาลสูงสุด แต่ก็ใช้ในกิจการของวังด้วย เช่น การต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง พระราชวังที่เห็นในปัจจุบันเป็นหลังที่สามแล้ว หลังสองหลังแรกไฟไหม้
ค่าเข้าชมแยกตามส่วนต่าง ๆ ส่วนละ 50 DKK (ถ้าเข้าแค่วังก็ 50 ถ้ารวมทุกส่วนจะราว 200) เข้าฟรีด้วย Copenhagen Card







.
Tivoli Gardens
สวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปครับ ก่อตั้งปี 1843 เป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คน รวมไปถึงวอลท์ ดิสนีย์ในการทำดิสนีย์แลนด์ ส่วนตัวผมว่าเป็นสวนสนุกที่ออกแบบได้สวยมากนะครับ เข้าไปดูเดินเล่นชิล ๆ ไม่ต้องเล่นเครื่องเล่นอะไรก็ฟินแล้วครับ
ค่าเข้าชม 120 DKK เข้าฟรีด้วย Copenhagen Card แต่อันนี้คือแค่เข้าเฉย ๆ นะครับ จะเล่นอะไรต้องไปซื้อบัตรอีกที ยกเว้นว่าจะซื้อเหมาไปเลย








.
20 ส.ค. 61: City Hall / Black Diamond / Churches / Christiania
ศาลากลาง (City Hall)
ส่วนตัวว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเท่าไหร่ครับ เปรียบเทียบกันสามประเทศผมว่าสต็อกโฮล์มและออสโลสวยกว่า ที่นี่เข้าชมฟรีครับ แต่ถ้าไปกับไกด์ทัวร์ก็ราคา 50 DKK



.
Copenhagen Cathedral (Church of Our Lady)
เดินผ่านครับเลยแวะเข้าไป สวยดีครับ จริง ๆ เป็นโบสถ์เก่าแก่ แต่ว่าโดนระเบิดลงตอนทำสงครามกับอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 19 ที่เห็นนี้คือโบสถ์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ โบสถ์นี้เข้าชมฟรีครับ


.
Royal Danish Library – The Black Diamond
เป็นห้องสมุดที่สวยดีครับ เลยแวะไปดู


.
Church of Our Saviour
เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโคเปนเฮเกนครับ คนนิยมมาที่นี่เพื่อปีนขึ้นไปบนยอดหอคอย เขาว่ากันว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองที่ดีที่สุด แต่ผมไม่ได้ขึ้นเหมือนกันครับ
โบสถ์เข้าชมฟรี แต่ค่าขึ้นหอคอย 50 DKK มี Copenhagen Card ขึ้นฟรีครับ




.
Free Town Christiania
ไม่ไกลจากโบสถ์ก็คือ Free Town Christiania ครับ มันคือเขตอิสระปกครองตนเองที่ไม่ขึ้นต่อรัฐ เป็นดินแดนแห่งฮิปปี้ เดินเข้าไปก็จะมีกัญชาขาย แม้เป็นสิ่งผิดกฎหมายที่นอกเขต (แต่ผมไม่ได้ลองนะครับ 55) คือก่อนหน้านี้เป็นเขตแดนเถื่อนที่พยายามปราบปรามหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ต่อมาเลยทดลองให้เป็นเขตปกครองตนเองเพื่อเป็นการทดลองทางสังคม
ฟังดูอาจจะดูน่ากลัวนะครับ แต่นักท่องเที่ยวเดินกันขวักเลย ปู่ย่ามากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ก็มี ผู้คนในนั้นเขาก็ไม่ทำอะไรเราหรอกครับ ดังนั้นไม่มีอะไรครับ แต่ว่ามีเขตที่ห้ามถ่ายรูปและผมไม่แน่ใจว่ามันตรงไหนบ้าง ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา

.
หลังจากนั้นผมก็กลับเข้าเมืองและเดินทางไปสนามบินต่อ เพื่อเดินทางไปยังออสโลครับ ด้วยสายการบิน Norwegian เช่นเคย (จริง ๆ เป็นสายการบินที่ผมใช้บริการบ่อยมากนะฮะ 😅)
ก็จบแล้วสำหรับทริปโคเปนเฮเกนนี้ เจอกันครั้งหน้าที่ออสโลครับ 🙂