ทริปนี้เป็นหนึ่งในซีรีย์ 17 วันเที่ยวยุโรป 5 ประเทศ เป็นการเดินทางหลังเรียนจบ Health Informatics จากสวีเดนของผมเองครับ โดยทริปนี้เป็นทริปต่อมาจากบรัสเซสส์และบรูจส์ครับ ผมเดินทางมาถึงที่นี่ค่ำ ๆ ของวันที่ 13 ส.ค. 61 และอยู่จนถึงวันที่ 17 ส.ค. จึงเดินทางต่อไปยังโคเปนเฮเกนครับ
ความคิดเห็นต่ออัมสเตอร์ดัมโดยรวม
- อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วครับ ใครอยากมาชิลก็มาเดินเล่นริมคลอง ปั่นจักรยาน หรือออกไปหมู่บ้านกังหัน Zaanse Schans ใครอยากมาหาอบายมุขก็มีย่านกินดื่ม กัญชา บริการทางเพศ การพนัน ทั้งหมดถูกกฎหมายในเมืองนี้ ใครอยากมาเที่ยวมิวเซียม ที่นี่ก็มีมิวเซียมทั้งของเก่าของใหม่รวมไปถึงของแปลกให้เราเยี่ยมชม
- ที่ด้อยกว่าเมืองอื่น ๆ หน่อยก็จะเป็นพวกสถาปัตยกรรมแนวอลังการ แต่ตึกรามบ้านช่องในอัมเตอร์ดัมก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกับที่อื่น
- เป็นเมืองที่มีความเจริญสูง สัมผัสได้ถึงความ innovative ของเมือง มีของที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ไม่เหมือนที่อื่น รถไฟฟ้าใหม่และสะอาด
- สรุปคือเป็นเมืองที่ดูน่าอยู่มากนะครับ (แต่ไม่รู้อยู่จริงจะเป็นไง)
.
ทิปเล็กทิปน้อย
- ถ้ามาเที่ยวสั้น ๆ และอยากเน้นเก็บสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ แนะนำอย่างยิ่งให้ซื้อ I amsterdam City Card นะครับ เป็นการ์ดที่ทางรัฐบาลทำเอง ใช้เป็นบัตรโดยสาร บัตรเข้าสถานที่ บัตรส่วนลด ไปด้วยในตัว
- ซื้อแล้วใช้ได้ถึง Zaanse Schans บ้านกังหันบางแห่งให้เราเข้าฟรีแค่โชว์การ์ด
- แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเดินทางไปสนามบินไม่รวมอยู่ในการ์ดนะครับ การเดินทางไป Zaanse Schans และเดินทางภายในนั้นก็ไม่รวม ถ้าอยากได้แบบรวมต้องซื้อเป็น Amsterdam & Region Travel Ticket
- หลาย ๆ พิพิธภัณฑ์ในอัมสเตอร์ดัมต้องจองล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ก่อน เช่น Anne Frank House และพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ
- ถ้าไป EYE Filmmuseum อย่าลืมเช็คเวลาฉายของภาพยนตร์ดี ๆ ครับ ไม่งั้นจะเหมือนผม คือไปถึงแล้วไม่ได้ดูอะไรเลย 😅
.
13 ส.ค. 61: มาถึงอัมสเตอร์ดัม
วันที่ผมมาถึง ผมก็เดินไปตามทางปกติ แต่ผมไม่สามารถหาทางออกจากสถานี Amsterdam Central ได้ เหมือนต้องสแกนบัตรบางอย่างก่อนประตูถึงจะเปิด (แต่ผมมาจากบรัสเซลส์จึงไม่มีบัตรดังกล่าว) สุดท้ายได้ไปบอกนายสถานี เขาก็เลยเปิดให้ ไม่รู้เหมือนกันครับว่ามาผิดประตูหรือเปล่า
เนื่องจากยังไม่หายป่วยดี ผมเลยพักที่โรงแรมแทนที่จะเป็นโฮสเทลครับ โดยผมพักที่โรงแรม The Student Hotel Amsterdam West ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจครับ มีระบบ self check-in กรอกข้อมูลแล้วได้คีย์การ์ดมา ห้องพักสะอาด อาหารเช้าราคารับได้ มีบริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญราคาโอเคเช่นกัน ข้อเสียก็พอมีบ้างคือ ทำเลออกมาไกลจากในเมืองเล็กน้อย แต่ว่าโรงแรมก็อยู่ติดรถไฟฟ้าและรถรางครับ ซึ่งความอยู่ติดรถไฟฟ้านี่ก็ทำให้เสียงรถไฟดังมาบางครั้ง แต่ก็ไม่ถึงกับรบกวนการนอน ข้อเสียเล็ก ๆ อีกอย่างคือร้านอาหารของโรงแรมมีแขกเยอะมาก ดังนั้นเลยจะแออัดนิด ๆ และช้าหน่อย ถ้าเราเลือกกินอาหารที่โรงแรม ราคาค่าตกราวคืนละ 3,200 บาทครับ
หลังจากพักผ่อน 1 คืน ผมก็เริ่มเที่ยวในวันต่อมาครับ
.
14 ส.ค. 61: แวนโก๊ะ / Rijksmuseum / ไฮเนเก้น
พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ
ที่แรกที่ผมไปในทริปนี้ก็คือพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะซึ่งจองล่วงหน้าไว้ครับ ข้างในก็จะมีภาพเขียนของแวนโก๊ะในช่วงต่าง ๆ เล่าพร้อม ๆ กับเรื่องราวของชีวิตเขาว่าเขาคิดอะไรอย่างไร แวนโก๊ะนี่จัดเป็นศิลปินที่มีประวัติชีวิตที่น่าสนใจคนหนึ่งนะครับ สร้างสรรค์ผลงานมากมาย แต่ตลอดชีวิตไม่ได้รับการยอมรับ ทั้งยังต้องเผชิญกับภาวะทางจิตเวชจนเสียชีวิตด้วยการปลิดชีวิตตนเอง
ค่าเข้าชม 18 ยูโร เข้าฟรีด้วย I amsterdam card ครับ




.
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum)
ใกล้ ๆ กับพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะก็คือ Rijksmuseum นี้ครับ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะของศิลปินชาวดัทช์รวมถึงศิลปินจากที่อื่น หน้าพิพิธภัณฑ์จะมีป้าย I amsterdam อันใหญ่ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน พิพิธภัณฑ์นี้มี Audioguide app ที่ผมว่าทำได้ดีมาก ๆ ให้โหลดฟรีด้วยครับ (ทำดีกว่าลูฟวร์หรือแวร์ซายซะอีก) ลองโหลดมาประกอบการเยี่ยมชมได้ครับ
ค่าเข้าชม 17.50 ยูโร เข้าฟรีด้วย I amsterdam card ครับ










.
Heineken Experience
อันนี้ก็คือพิพิธภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้นครับ แต่เดิมเป็นโรงงานผลิตเบียร์ของไฮเนเก้นก่อนที่จะย้ายออกไปนอกเมือง จึงปรับให้โรงงานเดิมเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติและกระบวนการทำเบียร์ของไฮเนเก้น คือดูจบแล้วก็ได้ภาพลักษณ์ที่เป็นบวกต่อไฮเนเก้นขึ้นมาเหมือนกันนะครับ
ค่าเข้าชม 18 ยูโร เข้าฟรีด้วย I amsterdam card ครับ






.
15 ส.ค. 61: รอบ ๆ Dam Square
Dam Square
อันนี้ก็คือจัตุรัสกลางเมืองเหมือนเมืองอื่น ๆ ในยุโรป ติดกับจัตุรัสคือพระราชวังอัมสเตอร์ดัม มิวเซียม และร้านค้าอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง




.
พระราชวังอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace Amsterdam)
พระราชวังนี้เดิมเคยเป็นศาลากลางเมืองมาก่อนในช่วง Dutch Golden Age ต่อมาตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสโดยกษัตริย์หลุยส์ นโปเลียน (น้องชายของจักรพรรดินโปเลียน) จึงได้ทำการเปลี่ยนมาเป็นวังและทำการตกแต่งห้องต่าง ๆ ต่อมาเมื่อเนเธอร์แลนด์มีกษัตริย์เป็นของตนเอง ที่นี่จึงทำหน้าที่เป็นพระราชวังต่อ
ค่าเข้าชม 10 ยูโร ไม่สามารถใช้ I amsterdam card ได้ แนะนำให้ซื้อออนไลน์ไปก่อนเพื่อลัดคิวเข้าชมครับ ระหว่างเข้าชมมี Audioguide ฟรีด้วยนะครับ





.
Bloemenmarkt
เดินมาจากพระราชวังก็จะผ่านย่านช็อปปิ้ง จนมาถึง Bloemenmarkt นี้ครับ เป็นตลาดขายดอกไม้ริมคลอง ส่วนตัวผมว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่



.
Central Station
เป็นสถานีรถไฟกลางที่สวยดีครับ


.
Basilica of Saint Nicholas
เป็น Basilica แห่งเดียวในอัมสเตอร์ดัม สวยดีครับ เข้าชมฟรีครับ


.
ล่องคลองอัมสเตอร์ดัม
I amsterdam City Card มีทัวร์ล่องคลองรวมอยู่ด้วย มีหลายบริษัทเข้าร่วม เราสามารถลงเรือของบริษัทใดก็ได้ ผมเลือกลงของ Stroma ที่แถว ๆ Rijksmuseum ครับ เป็นทัวร์ความยาว 1 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างนั่งเรือก็จะมีการอธิบายให้ฟังถึงส่วนต่าง ๆ ที่เราล่องเรือผ่าน ก็ประทับใจอยู่นะครับ



.
หลังล่องเรือ




.
16 ส.ค. 61: Arena / This is Holland / Filmmuseum / Micropia
เริ่มวันมาด้วยการไปทัวร์ Amsterdam Arena สนามของสโมสร Ajax Amsterdam ครับ จะมีไกด์ทัวร์ภาษาอังกฤษเป็นรอบ ๆ ค่าทัวร์ 16.50 ยูโร เข้าฟรีด้วย I amsterdam card ครับ







.
This is Holland
เป็นเครื่องเล่นใหม่ คือให้เรานั่งบนเก้าอี้ (รัดสายเข็มขัดให้เรียบร้อย) เก้าอี้จะเลื่อนเราไปอยู่ตรงกลางของจอภาพครึ่งวงกลม แล้วจอภาพก็จะฉายภาพยนตร์ เก้าอี้ก็จะโยกไปด้วย มีน้ำฉีดมีลมอะไรไป ก็คือโรงหนัง 4D เสมือนเรากำลังบินอยู่เหนือสถานที่ต่าง ๆ ในเนเธอร์แลนด์
ข้างในไม่ให้ถ่ายภาพครับ ลองดูตัวอย่างได้ในเว็บไซต์เขา ส่วนตัวผมว่าเป็นไอเดียที่ดี แต่สั้นไปนิด กับภาพยังคมไม่พอ มันเลยไม่ให้ความรู้สึกเหมือนบินอยู่จริง ๆ เท่าไหร่ แต่เท่านี้ก็หวาดเสียวอยู่เหมือนกันนะครับ
ค่าเข้าชม 16.50 ยูโร ไม่สามารถใช้บัตร I amsterdam card ได้ครับ

.
EYE Filmmuseum
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ครับ ก็จะมีโรงภาพยนตร์ให้เราดูหนังฟรี ๆ 4 โรง มีโปรแกรมตลอดวัน และก็มีนิทรรศการเกี่ยวกับภาพยนตร์อยู่รอบ ๆ ส่วนตัวผมว่าเป็นไอเดียที่ดีนะครับ
ค่าเข้าชม 10.50 ยูโร เข้าฟรีด้วย I amsterdam card ครับ






.
Micropia
พิพิธภัณฑ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของสวนสัตว์ ARTIS ครับ แต่เราสามารถเข้าเฉพาะที่นี่ได้ เป็นพิพิธภัณฑ์จุลชีววิทยา ก็คือมีพวกจุลชีพต่าง ๆ ให้เราส่องกล้องจุลทรรศน์ดูได้ครับ อันนี้ผมไม่ค่อยอินเท่าไหร่ แต่ที่ชอบคือภาพถ่ายความละเอียดสูงจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่เขานำมาโชว์จำนวนหนึ่ง อันนี้สวยดี ชอบ ๆ ที่ชอบอีกอย่างคือมี gimmick เล็ก ๆ ให้เราปั๊มว่าเราดูอะไรไปแล้วบ้าง จากนั้นนำมาโชว์ในจอใหญ่ในตอนท้ายได้
ค่าเข้าชม 14 ยูโร เข้าฟรีด้วย I amsterdam card ครับ



.
17 ส.ค. 61: Zaanse Schans
เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่ใช้กังหันลมเป็นเครื่องทุ่นแรงในการทำสิ่งต่าง ๆ เยอะ ตั้งแต่การวิดน้ำออกจากพื้นที่ (เพราะประเทศอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล) ไปจนถึงการผลิตสิ่งของต่าง ๆ ต่อมาเมื่อเครื่องจักรเข้ามาจึงลดความสำคัญลง ที่ Zaanse Schans นี้ยังเหลือกังหันลมอยู่ 8 หลัง ผมจำค่าเดินทางจากอัมสเตอร์ดัมไม่ได้ แต่มีตั๋วรถบัสขายที่สถานีเลย เป็นตั๋วไป-กลับ










.
หลังจากนั้นผมก็เดินทางกลับอัมสเตอร์ดัมเพื่อไปยังสนามบินต่อ ได้เวลาก็บินจากอัมสเตอร์ดัมไปยังโคเปนเฮเกนครับด้วยสายการบิน Norwegian
ก็จบแล้วสำหรับทริปอัมสเตอร์ดัมนี้ เจอกันครั้งหน้าที่โคเปนเฮเกนครับ 🙂
เขียนดีมากครับ
ตามหาข้อมูลAmsterdam เพราะมีแพลนจะไป เจอข้อมูลของคุณแล้วดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและรูปสวยๆนะคะ เดี๋ยวจะไปตามอ่านตอนอื่นๆด้วยค่ะ