ซีรีย์บทความนี้เป็นซีรีย์บทความที่ผมนำรายชื่อธุรกิจใน AARP: Caregiver Innovation Frontiers 2016 มาหาข้อมูลต่อนะครับ
Innovation เหล่านี้แบ่งเป็น 6 กลุ่ม
- กลุ่มช่วยเหลือการใช้ชีวิตประจำวัน (Daily essential activities)
- กลุ่มจัดการข้อมูลสุขภาพ (Health and safety awareness)
- กลุ่มประสานงานการดูแลรักษา (Care co-ordination)— This blog
- กลุ่มดูแลช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition support)
- กลุ่มดูแลด้านสังคม (Social well-being)
- กลุ่มช่วยเหลือผู้ดูแล (Caregiver quality of life)
3. กลุ่มประสานงานการดูแลรักษา (Care co-ordination)
กลุ่มนี้ก็เริ่มตั้งแต่การหาโรงพยาบาลหรือคลินิกสำหรับการ visit, การวางแผนการรักษา, การเคลมค่ารักษาต่างๆ, ไปจนถึงการประสานงานหลังออกจาโรงพยาบาล
ลองดูวิดีโอนี้ประกอบครับ จะเข้าใจ concept ได้มากขึ้น
การประสารงานระหว่างทีมดูแลต่างๆ การ track medical data ต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นไอเดียต้นแบบที่ทำให้เราทำ Health at Home – Care Tool app ขึ้นมา
กลุ่มนี้แยกย่อยออกได้เป็น
3.1 กลุ่มวางแผนการรักษา (Care planning)
เป็นกลุ่มที่เน้นสร้าง tool ในการจัดการและติดตาม care activity ต่างๆ
ตัวอย่างเช่น
CareZone

เป็นแอพสำหรับบริหารจัดการ data แทบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการดูแลครับ กินยาอะไรอยู่บ้าง (มีฟังก์ชั่นถ่ายรูปฉลากยา) มีนัดหมอวันไหน แต่ละวันมี care plan อย่างไรบ้าง คล้ายๆ เป็น personal health record สำหรับคนไข้ ที่ครอบครัวและทีมดูแลสามารถเข้าถึงได้
ดาวน์โหลดได้ที่ App store และ Play store
Care Angel

อันนี้เป็น service ที่ผมว่าน่าสนใจมากเลยครับ คือ family subscribe กับทางบริษัทไว้ หลังจากนั้นจะมี AI โทรไปถามพ่อแม่เราทุกวันในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วก็ generate ออกมาเป็น report ให้เราดู
ที่ผมว่าน่าสนใจคือ ผมว่าทุกคนคิดเหมือนกันว่า medical data เป็นสิ่งที่ถ้าเก็บมามากพอมันจะมีประโยชน์ แต่ปัญหาทุกวันนี้คือมันหาวิธีเก็บที่ดีๆ ได้ลำบาก อย่างเช่นถ้าให้ caregiver เป็นผู้ลงข้อมูล สมมติเขาลงมาว่าคนไข้อาการดีทุกวัน เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าข้อมูลนั้นเป็นความจริง เป็นต้นครับ
Zest Health, eCaring, Caremerge, Zynx Health

- Zest Health: เป็นอีก product ที่ผมว่าน่าสนใจนะครับ ใช้ AI อีกแล้ว คือมีอะไรโทรหา หรือ chat กับเขาได้เลย ตั้งแต่คนที่บ้านไม่สบาย หาว่าจะไปหาหมอที่ไหนดี ประเมินค่าใช้จ่าย ทำนัดกับคลินิก ฯลฯ
- eCaring: อันนี้เขาทำ homecare solution เข้าใจว่าน่าจะเป็น Windows app ลงในเครื่องที่ติดอยู่ใกล้ๆ เตียงคนไข้ แล้ว caregiver ก็สามารถลงข้อมูลต่างๆ ได้ family กับ healthcare provider ก็ access ได้ real time
- Caremerge: ทำ solution สำหรับ healthcare provider ต่างๆ เช่น Nursing home สำหรับใช้ coordinate และสื่อสารกับครอบครัว
- Zynx Health: จริงๆ เป็นบริษัทที่ทำหลายอย่างมาก แต่มี product ที่เกี่ยวคือ ZynxCarebook เป็น product แนว care coordination นี่แหละครับ
3.2 กลุ่มให้สถานพยาบาลเพิ่ม engagement กับคนไข้
กลุ่มนี้ก็ตั้งแต่เว็บ portal ในการหาโรงพยาบาล, รีวิวโรงพยาบาล, นัดหมอ, สารสื่อสารต่างๆ
Zocdoc และผองเพื่อน

พวกนี้คือ product ที่ทำมาแก้ปัญหา “จะไปหาหมอที่ไหนดี” เป็นหลัก แต่ละบริษัทก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกัน แต่หลักๆ ก็คือจะมีรายชื่อ healthcare provider พร้อมรีวิวจากคนไข้ หลายๆ บริษัทก็จะมีบริการ booking ให้ด้วยเลย
- Zocdoc: อันนี้น่าจะเป็นหนึ่งใน health tech startup ที่ดังที่สุดแล้วครับ มี valuation สูงเป็นอันดับต้นๆ ของ startup ในนิวยอร์ค เปิดบริการตั้งแต่ปี 2007 ปัจจุบันระดมทุนไปแล้ว 223 ล้านเหรียญ เรื่องราวตอนช่วงก่อตั้งก็น่าสนใจดีนะครับ co-founder เดินขาย product ให้ทีละคลินิกอยู่ 2 ปี (do things that don’t scale)
- Doctoralia: (เพิ่งรวมกิจการกับ Docplanner) อันนี้ก็เป็น Zocdoc version ที่ operate ในระดับ global ปัจจุบันมี 25 ประเทศ (แต่ไม่มี US)
- Zesty: อันนี้ของ UK
- KelDoc: อันนี้ของฝรั่งเศส
- Practo: ของอินเดีย
ส่วนกลุ่มที่เป็น directory อย่างเดียว ไม่มีระบบ booking ก็เช่น
- Vitals: อยู่มานานพอๆ กับ Zocdoc คือของ Zocdoc นี่หมอที่จะอยู่ใน listing บนเว็บได้ก็คือต้องจ่ายค่า subscription กับ Zocdoc ก่อน แต่อย่างพวก Vitals ก็คือ หา list ของ providers มาเลย แล้วให้คนรีวิว ดังนั้นจำนวน providers จึงเยอะกว่า ปัจจุบันระดมทุนไป 86.32 ล้านเหรียญ
- Healthgrades: เปิดมานานกว่า Vitals อีกครับ (เปิดปี 1998) แต่โดยฟังก์ชั่นก็คล้ายๆ กัน
Practice Fusion

จริงๆ Practice fusion เป็นบริการ cloud-base EHR สำหรับสถานพยาบาลครับ แต่เขามี movement นึงที่น่าสนใจคือทำ platform สำหรับการหาหมอที่อยู่ในระบบของเขา โดยคนไข้ก็จะมี personal health record ที่หมอทุกคนในระบบก็ดูได้ร่วมกัน
CareMessage

อันนี้เป็น Non-profit organization ทำ Patient engagement tool ที่น่าสนใจดีครับ คือจะมี program การส่งข้อความต่างๆ เช่น ให้ความรู้ การช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การช่วยแปลผลแล็บ เป็นต้น
3.3 กลุ่มดูแลเรื่องการเงิน, ประกัน และ health records
กลุ่มที่ทำเรื่องการเงิน-ประกันนี่เป็นกลุ่มที่ผมไม่ค่อยรู้เรื่องนะครับว่าเขาทำอะไร เพราะผมไม่ค่อยทราบบริบทของ Health system ในอเมริกา แต่เป็นกลุ่มที่กำลังเป็นเทรนด์ เหมือน FinTech อื่นๆ ครับ

- Benefitter: เป็น SaaS สำหรับให้ employer บริหารจัดการประกันสุขภาพของพนักงาน ทำอย่างไรผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันครับ ประมาณว่าเปลี่ยนการซื้อประกันจากประกันภัยกลุ่มสวัสดิการพนักงาน มาเป็นให้เหมาะกับแต่ละคน เพิ่งขายบริษัทไปเมื่อปีที่แล้ว
- Collective Health: ทำเรื่องประกันสำหรับพนักงานบริษัท concept น่าจะคล้ายๆ benefitter เป็นบริษัทที่กำลังร้อนแรงมากเลยครับ เปิดปี 2013 เป็นข่าวในสื่อบ่อยๆ ว่ากำลัง disrupt ระบบประกันสุขภาพของอเมริกา

CareLedger: ให้พนักงานบริษัทสามารถรับการรักษาฟรีได้ โดยการให้รายชื่อของ providers ที่มีคุณภาพสูงสุดที่มีราคาอยู่ในเกณฑ์ของวงเงินประกัน

- Stride Health: เป็นบริการแนะนำประกันสุขภาพรายบุคคล
- Maxwell Health: ทำเรื่องแนะนำประกันสุขภาพสำหรับพนักงานเช่นกันครับ

Simplee: เป็น SaaS สำหรับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ เพราะในอเมริกาเรื่องนี้ค่อนข้างวุ่นวาย ไปโรงพยาบาลวันเดียว อาจมีบิลตามมาหลายใบ อันนี้ก็คือ เข้าที่เดียวรู้หมดเลยว่าเป็นบิลอะไร จ่ายไปแล้วหรือยัง จะมีบิลอะไรอีกไหม ฯลฯ

- Eligible: อันนี้เป็น payment infrastructure for Healthcare เช่น ทำ API เช็คสิทธิ์ประกันว่าการรักษานี้ครอบคลุมคนไข้คนนี้หรือเปล่า
- PokitDok: แนว technical infrastructure เหมือนกันครับ

Healthspek: ทำ online personal health record ครับ ในนั้นก็จะมีข้อมูลประกันอยู่ด้วย เพิ่งก่อตั้งปี 2015 ไม่รู้จะเวิร์คไหมเหมือนกันครับ แนว PHR เนี่ย
3.4 กลุ่มช่วยเหลือการฟื้นฟู
Cureatr

เป็นบริการ Care Transition Notifications หมายถึงเช่น เรามีหมอประจำตัวของเราอยู่แล้วหลายๆ แห่ง สมมติเราไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วต้องไปห้องฉุกเฉิน ระบบก็จะ notify หมอประจำตัวเรา เพื่อช่วยให้ข้อมูลประกอบการรักษาและช่วยวางแผนการรักษาที่เหมาะกับเรา
CarePort

ช่วยในการ transition ผู้ป่วยหลังออกจากโรงพยาบาล เช่น การหา sub acute care facilities, หา nursing home และยังสามารถประสานงานได้งานการดูแลรักษาต่อได้จากภายในแอพ
GoMotive

เป็น remote training platform มีตั้งแต่ personal trainer, chiropractors, ไปจนถึงนักกายภาพบำบัด
Reflexion Health

บริษัทนี้ดังอยู่ครับ ทำกายภาพบำบัดที่บ้านด้วย Microsoft Kinect
จริงๆ แอพแนว Rehab, กายภาพบำบัดที่บ้านนี่มีเยอะนะครับ ทั้งใช้คนสอนและใช้คอมสอน ลองเสิร์ชดูน่าจะเจออีกเยอะเลย
ก็หมดแล้วครับสำหรับ startup กลุ่มที่ 3 ซึ่งเน้นประสานงานการดูแลรักษา (Care co-ordination) ตอนต่อไปจะมาว่ากันถึงกลุ่มอื่นๆ ต่อไปครับ
- กลุ่มช่วยเหลือการใช้ชีวิตประจำวัน (Daily essential activities)
- กลุ่มจัดการข้อมูลสุขภาพ (Health and safety awareness)
- กลุ่มประสานงานการดูแลรักษา (Care co-ordination)— This blog
- กลุ่มดูแลช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition support)
- กลุ่มดูแลด้านสังคม (Social well-being)
- กลุ่มช่วยเหลือผู้ดูแล (Caregiver quality of life)
Great!